Business
รักษ์โลกแบบง่ายๆ เริ่มต้นธุรกิจสีเขียวจากบ้านคุณ!
ในปัจจุบันที่โลกของเราได้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หลายคน หันมาปรับใช้ไลฟ์สไตล์ใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้นและแน่นอนว่าอีกสิ่งที่ตามมาก็คือแนวคิดการเริ่มต้นธุรกิจรักษ์โลกจากบ้านที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน แล้วธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสำคัญอย่างไร? การเริ่มต้นธุรกิจรักษ์โลกจากที่บ้าน ไม่เพียงแต่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แต่ยังช่วยลดโลกร้อนและรักษาสิ่งแวดล้อม รวมถึงมอบอิสระและความยืดหยุ่นในการทำงานให้กับเจ้าของธุรกิจได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับใครหลายๆ คนอีกด้วย หากคุณก็เป็นอีกหนึ่งคนที่อยากจะเริ่มต้นบนเส้นทางธุรกิจสีเขียวนี้ เดลล์มี 3 ไอเดียธุรกิจรักษ์โลกที่อาจตอบโจทย์คุณ เปิดร้านขายของที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สินค้ารักษ์โลกนั้นมีหลากหลายประเภท ตั้งแต่ของใช้ในครัวเรือนที่ใช้ซ้ำได้ สกินแคร์ออร์แกนิก ไปจนถึงเสื้อผ้าแฟชั่นสุดชิคแบบยั่งยืน และที่ขาดไม่ได้เพื่อการทำธุรกิจยั่งยืนอย่างแท้จริง คือการค้นหาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากซัพพลายเออร์ในท้องถิ่นและผู้ผลิตที่รักษ์โลกเหมือนคุณ! นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้ช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดียในการโปรโมตสินค้า และทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเพิ่มการเข้าถึงและการมีส่วนร่วมในกลุ่มเป้าหมายของคุณอีกด้วย บริการให้คำปรึกษาด้านสิ่งแวดล้อมออนไลน์ หากคุณศึกษาทางด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมมาโดยตรง และสามารถให้คำปรึกษาในข้อมูลเชิงลึก ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด เดลล์ขอแนะนำการเริ่มต้นธุรกิจ ‘ผู้ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในธุรกิจ’ เช่น ด้านการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือการลดขยะในขั้นตอนการผลิตและขนส่ง ฯลฯ เพื่อเป็นตัวช่วยให้กับเหล่าธุรกิจในการนำแนวทางปฏิบัติที่ยั่งยืนมาปรับใช้ อีกทั้งคุณยังสามารถรับให้คำปรึกษาทางออนไลน์ ผ่านการสร้างเว็บไซต์ และโปรโมตผ่านทางโซเชียลมีเดีย เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของคุณได้ง่ายขึ้น สะดวกต่อการเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อการใช้งานในอนาคต ซึ่งถือเป็นการปรับใช้วิถีใหม่ในการทำงานกับธุรกิจนี้ได้อีกด้วย บริการทำความสะอาดที่ดีต่อคุณและโลก หนึ่งในธุรกิจที่ส่งผลดีโดยตรงต่อทั้งคุณและสิ่งแวดล้อมคือ การให้บริการทำความสะอาดที่ดีต่อโลก ไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดบ้านด้วยน้ำยาที่ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย การทำสวนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแม้กระทั่ง การจัดระเบียบบ้านด้วยผลิตภัณฑ์รีไซเคิลตามแนวทางการลดขยะให้เหลือศูนย์ ก่อนเริ่มต้นธุรกิจอย่าลืมตรวจเช็กให้แน่ใจว่าคุณมีอุปกรณ์ในการประกอบธุรกิจที่ครบครัน ใบรับรองความเชี่ยวชาญ และการตั้งราคาที่เหมาะสม การทำงานร่วมกับบุคคลหรือองค์กรที่มีเป้าหมายหรือแนวคิดเดียวกัน […]
สรุปเทรนด์ผู้บริโภคที่มาแรงและน่าจับตามอง 2023
พร้อมรึยัง? สำหรับเทรนด์มาแรงที่น่าจะโดนใจผู้บริโภคประจำปี 2023 โลกหมุนไปไวขึ้นทุกวัน เทรนด์ทั้งใหม่และเก่าก็หมุนเวียนเรียงแถวกันขึ้นมาให้ทั้งนักการตลาดและผู้บริโภคได้ติดตามเช่นกัน วันนี้เดลล์ได้รวบรวม 4 ผลสำรวจเจ๋งๆ จากเหล่าผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลกเกี่ยวกับเทรนด์มาแรงน่าจับตามองที่อาจจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการเลือกจับจ่ายของผู้บริโภคมาให้คุณแล้ว ที่มีตั้งแต่การใส่ใจในเรื่องความยั่งยืนที่มากขึ้น ไปจนถึงการดูแลสุขภาพกันเลย 4 เทรนด์ผู้บริโภค ที่เหล่าผู้เชี่ยวชาญทำนายไว้ว่ามาแน่ จะมีอะไรบ้างไปดูกัน เทรนด์ความยั่งยืน “ความยั่งยืน” คงเป็นคำยอดฮิตที่ทุกคนได้ยินกันมาสักพักแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ความตัวแม่ก็แคร์โลกแบบยั่งยืนนี้ จะกลายมาเป็นเทรนด์มาแรงประจำปี 2023 ผลสำรวจจาก Deloitte แสดงให้เห็นว่า 55% ของผู้บริโภคนั้นได้ทำการซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากแบรนด์ที่เพิ่มความยั่งยืนและใส่ใจในสิ่งแวดล้อมไว้ในผลิตภัณฑ์ของพวกเขา ซึ่งก็ถือเป็นกำไรต่อโลกเรามากอยู่ทีเดียว เพราะเมื่อความยั่งยืนกลายมาเป็นเทรนด์ แบรนด์ต่างๆ จึงต่างพากันปรับแผนการดำเนินธุรกิจให้ส่งผลกระทบต่อโลกให้น้อยที่สุด ตามความต้องการของสินค้ารักษ์โลกที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง เดลล์ขอทำนายว่า: ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป เราอาจจะได้เห็นธุรกิจส่งต่อของมือสอง ธุรกิจสถานีรีฟิล หรือแม้กระทั่งธุรกิจการท่องเที่ยว ที่เต็มไปด้วยความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมของโลกเรา พุ่งแรงแซงโค้งมาปูพรมให้กับวิถีการบริโภคของคนยุคใหม่อย่างแน่นอน เทรนด์การประดิษฐ์ประดอย ในช่วงที่ทั่วโลกต้องเผชิญกับโรคระบาด งานฝีมือ (DIY: Do-It-Yourself) ก็ได้กลายมาเป็นเทรนด์งานอดิเรกสุดบูม เห็นได้จา่กวิดีโอสอนทำหรือรีวิวสุดไวรัลที่ยึดครองพื้นที่โซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์ม เพราะเชื่อหรือไม่ว่า งานประดิษฐ์ประดอยที่หลายคนเคยมองข้าม สามารถช่วยเยียวยาจิตใจของเราในช่วงที่ต้องกักตัว เว้นระยะห่างและโดดเดี่ยวได้ ดังนั้นในปี 2023 นี้ […]
5 ขั้นตอน เริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์ให้ปังทะลุเป้า
ธุรกิจแฟรนไชส์ นับเป็นหนึ่งในธุรกิจยอดนิยมที่คุณสามารถพบได้ทุกที่ในปัจจุบัน ข้อดีของธุรกิจแฟรนไชส์ คือ การไม่ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งจากศูนย์ นักธุรกิจหรือเจ้าของธุรกิจหน้าใหม่จึงเลือกที่จะลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์กันมากขึ้น เพราะมักมาพร้อมกับชื่อเสียงที่เป็นที่คุ้นเคย ฐานข้อมูลลูกค้าเดิม และระบบมาตรฐานของการบริการธุรกิจที่จะสามารถช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถไปโฟกัสกับการดำเนินธุรกิจได้เต็มที่มากขึ้น พร้อมทั้งได้ประโยชน์จากแบรนดิ้งและชื่อเสียงของแบรนด์ วันนี้เดลล์เลยจะขอพานักธุรกิจหน้าใหม่ไปดู 5 ขั้นตอน การเริ่มต้นธุรกิจแฟรนไชส์อย่างไรให้ปังทะลุเป้า! ประเมินโอกาส ลองค้นหาธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทที่คุณต้องการจะลงทุน พร้อมประเมินโอกาสที่จะประสบความสำเร็จ พยายามหลีกเลี่ยงการเปิดประเภทของธุรกิจแฟรนไชส์ซ้ำกับธุรกิจที่มีอยู่แล้วในบริเวณพื้นที่เดียวกัน เพราะนอกจากอาจจะทำให้เกิดการแข่งขันที่สูงแล้ว ยังอาจทำให้ผลตอบรับของธุรกิจไม่ดีเท่าที่ควรด้วย จากนั้นให้เริ่มประเมินปัจจัยสำคัญอื่นๆ เช่น เงินทุนสภาพคล่องที่คุณต้องการ ต้นทุนทางธุรกิจ และเป้าหมายรายได้เฉลี่ย เพื่อให้แน่ใจว่าคุณควรดำเนินธุรกิจต่อหรือไม่และเป็นการวางแผนกระบวนการล่วงหน้าก่อนลงมือทำจริงด้วย ร่างแผนธุรกิจและหาทำเล เมื่อคุณตัดสินใจเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ได้แล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการวางแผนการทำธุรกิจในแบบฉบับของคุณ แม้ว่าแผนธุรกิจบางส่วนจะถูกวางมาจากเจ้าของแฟรนไชส์แล้วก็ตาม ควรวางแผนธุรกิจตามหลักความเป็นจริง และคุณควรที่จะเข้าใจในกลุ่มเป้าหมายหรือชุมชนที่คุณต้องการจะสร้างธุรกิจนั้นๆ เพื่อมอบบริการให้ นอกจากการเริ่มวางแผนแล้ว คุณควรที่จะเริ่มมองหาทำเลที่ตั้งของร้านอีกด้วย สังเกตว่าแฟรนไชส์นั้นมีการดำเนินงานอย่างไร ธุรกิจแฟรนไชส์ชื่อดังไม่ได้แปลว่าจะเหมาะสำหรับคุณเสมอไป ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ใดๆ ก็ควรที่จะหาข้อมูลและคอยสังเกตการณ์ว่าบริษัทแม่นั้นทำงานร่วมกับผู้ซื้อแฟรนไชส์และมีวิธีจัดการตลาดระดับท้องถิ่นอย่างไร ขั้นตอนการเรีนรู้นี้จะเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับจุดยืนหรือการดำเนินงานของธุรกิจมากขึ้น ซึ่งทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจว่าคุณเห็นทิศทางธุรกิจไปในทางเดียวกันหรือไม่ อาจใช้เวลาสักหน่อยแต่ว่าคุ้มค่าแน่นอน เซ็นต์สัญญาเพื่อเริ่มทำแฟรนไชส์ เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทใด ยี่ห้อไหน ขั้นตอนถัดไปก็คือการเซ็นต์สัญญาและขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจ ซึ่งขั้นตอนในการสมัครนี้ เจ้าของแฟรนไชส์จะเป็นผู้ตรวจสอบว่าคุณมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดหรือไม่ ดังนั้นคุณเองก็ควรเตรียมความพร้อม และอ่านสัญญาให้ละเอียดถี่ถ้วน หรือจะจ้างทนายในการทำสัญญาก็ได้ เข้ารับการฝึกอบรมกับทางเจ้าของธุรกิจ ในการทำธุรกิจแฟรนไชส์นั้นมักจะมีกฎเกณฑ์และข้อกำหนดเกี่ยวกับ ขนาดที่ตั้ง มาตรฐานของอุปกรณ์ […]
5 กลยุทธ์มัดใจลูกทีมคนเก่ง ลดปัญหาพนักงานพากันลาออก
การจ้างงานพนักงานดีๆ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับธุรกิจไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ และการรักษาพนักงานที่มีความสามารถยอดเยี่ยมไว้ให้ได้ก็เป็นสิ่งที่ทุกธุรกิจควรให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งเช่นกัน โดยเฉพาะในธุรกิจขนาดเล็ก เพราะหากพนักงานพากันลาออก ก็อาจทำให้เกิดช่องโหว่และอาการสะดุดในโปรเจกต์ใดๆ ที่ต้องดำเนินไปโดยที่มีพนักงานไม่เพียงพอ นำไปสู่ความไม่ราบรื่นในการทำงานในที่สุด การเข้า-ออกของพนักงานในโลกยุคปัจจุบันนั้นไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่ แต่องค์กรเองก็ต้องปรับกลยุทธ์ในการรักษาพนักงานให้อยู่ด้วยกันไปนานๆ ด้วยเช่นกัน วันนี้เดลล์จะขอพาเหล่าเจ้าของธุรกิจ หรือ แผนก HR และ Culture ไปเรียนรู้กลยุทธ์มัดใจลูกทีมคนเก่ง สร้างพื้นที่ของการทำงานที่มีความเป็นมืออาชีพ จนใครๆ ก็อยากอยู่ต่อ! เลือกคนที่ใช่ อันดับแรกของการมัดใจพนักงาน ก็คือการจ้างคนที่ใช่และเหมาะกับงานนี้! เริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการสัมภาษณ์ที่ควรสื่อสารและสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจว่าที่พนักงานใหม่ของคุณเกี่ยวกับสไตล์การทำงาน ความคาดหวัง และเป้าหมายในการทำงานของเขา และบริษัทหรือธุรกิจของคุณกำลังมองหาคนหรือความสามารถในด้านใดบ้าง รวมถึงกำหนดขอบเขตการรับผิดชอบงานให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดซึ่งนำไปสู่การลาออกของพนักงานหลังจากเริ่มทำงานได้เพียงไม่นาน งานยุคใหม่ควรมีความยืดหยุ่น หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดที่พนักงานนึกถึงเมื่อพูดถึงรูปแบบการทำงานในยุคใหม่ก็คือความยืดหยุ่นในการทำงาน การเปลี่ยนแปลงของโลกและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเอื้ออำนวยให้เกิดการทำงานรูปแบบใหม่ๆ ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับองค์กรที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน พร้อมยื่นข้อเสนอในการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อดึงดูดคนเก่งๆ เช่น สามารถเลือกทำงานที่บ้านหรือเข้าออฟฟิศแบบ Hybrid Working ได้ หรือจะเป็นการทำงานจากที่บ้าน (Work From Home) แบบ 100% หากพนักงานสามารถเลือกรูปแบบการทำงานที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของพวกเขาได้ ก็จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจ นำไปสู่ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้างความร่วมมือในทีมและทัศนคติที่ดีต่อองค์กรอีกด้วย อัปสกิลใหม่ๆ ให้พนักงานอยู่เสมอ พนักงานยุคใหม่เองก็มักเลือกที่จะอยู่องค์กรที่พวกเขาสามารถเรียนรู้ ก้าวหน้า […]
รีวิวจากผู้ใช้งานจริง VS แรงเชียร์จากอินฟลูเอนเซอร์: สำหรับ SME อย่างไหนดีกว่ากัน?
อยากจะปั้นธุรกิจให้รุ่งก็ต้องสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จัก ในยุคนี้ที่มีโซเชียลมีเดียเป็นตัวช่วย โอกาสทางการตลาดจึงมีมากกว่าที่เคย มีตัวเลือกสำหรับการโฆษณาให้ธุรกิจ SME ได้เลือกมากขึ้น แถมยังเป็นการใช้งบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ในบรรดาวิธียอดฮิตที่หลายๆ SME มักจะเลือกใช้โปรโมทธุรกิจกัน การรีวิวจากผู้ใช้งานจริงและการใช้แรงเชียร์จากอินฟลูเอนเซอร์ ดูจะเป็นวิธีที่ได้ผลดีและยังอยู่ในราคาที่จับต้องได้ รีวิวจากผู้ใช้งานจริงถือเป็นเครื่องมือทำการตลาด ในขณะเดียวกัน การทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ ก็ช่วยจะช่วยผลักดันผลิตภัณฑ์หรือบริการของธุรกิจคุณให้โดดเด่นยิ่งขึ้น เดลล์ชวนคุณเปิดข้อดี-ข้อเสียของทั้งสองวิธีโปรโมทธุรกิจ มาดูกันดีกว่าว่าวิธีไหนจะเวิร์คกว่ากันสำหรับธุรกิจของคุณ รีวิวจากผู้ใช้งานจริง ข้อดี ข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์จากลูกค้าจริง เสียงจากผู้ใช้งานจริง ถือเป็นคำแนะนำที่มีค่าอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาและปรับปรุงในอนาคต เป็นการประเมินที่จะช่วยชี้จุดแข็งและจุดที่ควรพัฒนาของธุรกิจคุณ เรียกได้ว่าเป็นการวิจัยการตลาดที่ช่วยประหยัดงบให้คุณ สร้างความน่าเชื่อถือ รีวิวจากผู้ใช้งานจริงช่วยสร้างความน่าเชื่อให้แบรนด์ได้เป็นอย่างมาก นั่นเพราะความคิดเห็นเหล่านี้เกิดจากการใช้งานจริง เมื่อเสียงที่ออกความเห็นถึงข้อดีและจุดเด่นของแบรนด์คุณ คือลูกค้าตัวจริงเสียงจริงของแบรนด์ ผลลัพธ์ที่จะได้ตามมาคือความน่าเชื่อถือของแบรนด์และลูกค้ากลุ่มใหม่รีวิวจากผู้ใช้งานจริงจึงถือเป็นการทำการตลาดแบบไม่เสียค่าใช้จ่ายที่คุณได้รับจากลูกค้าของคุณ ความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ พอมีรีวิว ลูกค้าคนอื่นๆ ก็ยิ่งอยากแสดงความเห็นกันมากขึ้น กลายมาเป็นคอมมูนิตี้ในกลุ่มลูกค้า ขั้นตอนการแสดงความเห็นนี้เอง ได้ค่อยๆ สร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ซึ่งจะทำให้พวกเขากลับมาอุดหนุนคุณเรื่อยๆ ข้อเสีย ไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าจะได้สักรีวิว ถึงแบรนด์ของคุณจะฮิตติดตลาดสักแค่ไหน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้รีวิวความเห็นจากลูกค้า คุณอาจมีวิธีกระตุ้นให้ลูกค้ามาแสดงความเห็นเกี่ยวกับโปรดักส์ของคุณ แต่คุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความเห็นที่จะได้รับจะเป็นประโยชน์หรือไม่ หรือไม่แน่ก็อาจจะไม่ได้เลยสักรีวิว ความท้าทายในการติดตามความเห็นของลูกค้า ถ้าคุณอยากจะใช้ความเห็นจากลูกค้าให้เป็นประโยชน์ สิ่งสำคัญคือการมีคนคอยช่วยดูแลติดตามให้มีรีวิวใหม่ๆ อยู่เสมอ พร้อมทั้งตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีทรัพยากรเพียงพอสำหรับจัดการทุกอย่างให้ลงตัว เพราะรีวิวที่เก่าเกินไปและดูสะเปะสะปะ ไม่ได้มีประโยชน์แต่อย่างใด แถมยังทำให้ลูกค้าที่ผ่านมาเห็นเกิดความสับสนลังเลใจอีกต่างหาก […]