หน้าแรก     ข่าว หลากหลายแต่ลงตัว: ทำไมการสร้างสังคมการทำงานให้น่าอยู่จึงสำคัญต่อกลุ่ม LGBTQAI+

หลากหลายแต่ลงตัว: ทำไมการสร้างสังคมการทำงานให้น่าอยู่จึงสำคัญต่อกลุ่ม LGBTQAI+

Jun 26, 2023

ถือได้ว่าเป็นการก้าวเข้าสู่โลก ‘ยุคใหม่’ ได้อย่างเต็มตัว สำหรับปี 2023 นี้ นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้ว สังคมส่วนใหญ่ก็เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องความหลากหลาย (Diversity) และการเคารพในความต่างมากขึ้น เห็นได้ชัดจาก “เดือนไพรด์ (Pride Month)” ที่จะมีการจัดเทศกาลขึ้นทั่วโลกในเดือนมิถุนายนของทุกปี เพื่อการเรียกร้องและสร้างความตระหนักรู้ถึงความหลากหลายและเท่าเทียมของชาว LGBTQAI+ และคนจากทุกกลุ่มให้เกิดขึ้นในสังคม แต่ที่มากไปกว่าสีสันและการเฉลิมฉลองก็คือการย้ำเตือนว่าความเท่าเทียมและความหลากหลายควรเป็นเรื่องธรรมดาของสังคม ซึ่งในปัจจุบันหลายองค์กรก็นำแนวความคิดนี้ไปปรับใช้ในการสร้างวัฒนธรรมขององค์กรเช่นกัน

องค์กรหลายแห่งได้นำเอาหลัก DEI ที่ประกอบไปด้วย ความหลากหลาย (Deiversity) เสมอภาค (Equity) และการมีส่วนร่วม (Inclusion) มาปรับใช้ ซึ่งเป็นการสร้างเสริมให้พนักงานทุกคนได้อยู่ในสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย มีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม และได้รับการยอมรับ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น แถมยังมีสุขภาพจิตที่ดีอีกด้วย การปรับใช้นโยบายใหม่ๆ ที่เป็นผลดีต่อพนักงานในองค์กรเช่นนี้ จึงเป็นแนวทางสำคัญที่องค์กรในยุคใหม่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้นๆ  

แล้วเราจะสร้างสังคมการทำงานที่น่าอยู่มากขึ้นได้อย่างไรสำหรับกลุ่ม LGBTQAI+

การส่งเสริมสภาพแวดล้อมในที่ทำงานแบบมีส่วนร่วมโดยเฉพาะสำหรับกลุ่ม LGBTQAI+ เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาในการพัฒนา ไม่ใช่ความฉาบฉวยเพียงช่วงเดือนไพรด์เท่านั้น แต่เป็นการที่ทั้งบริษัทปรับใช้นโยบายพร้อมสร้างความมั่นใจว่า ทุกคนในที่ทำงานนี้รู้สึกมีคุณค่าและได้รับการยอมรับจากใจจริงอยู่เสมอ

วันนี้เดลล์เลยจะขอพาเหล่า HR หรือทีม Culture ไปส่อง 3 นโยบายดีๆ ที่บริษัทจะสามารถปรับใช้สำหรับทุกคนที่แตกต่างอย่างลงตัว เพิ่มความหลากหลาย พร้อมส่งเสริมการมีส่วนรวมให้เกิดขึ้นกับกลุ่ม LGBTQAI+ ในบริษัทของคุณได้ 

ส่งเสริมความเข้าใจและเปิดใจรับความต่างในที่ทำงาน

สิ่งแรกที่ทีม HR และ Culture ควรคำนึงถึงในการเริ่มต้นเส้นทางแห่งการโอบรับนี้ คือการสร้างความเข้าใจและเพิ่มความตระหนักรู้ให้กับเหล่าพนักงานเกี่ยวกับความหลากหลายของกลุ่มคนโดยเฉพาะชาว LGBTQAI+ โดยอาจลองจัดประชุมเล็กๆ อย่างช่วงชิทแชท หรือพูดคุยอย่างเป็นกันเอง ที่ช่วยเสริมความเข้าใจในการปฏิบัติต่อความแตกต่าง เช่น ทำความเข้าใจการเรียกสรรพนามสถานะทางเพศ (gender pronouns) ที่ถูกต้อง เพื่อเป็นการให้เกียรติวิถีทางเพศของทุกคนในที่ทำงานและสังคม รวมไปถึงการเพิ่มความมีส่วนร่วมและผลักดันความหลากหลายให้เกิดขึ้นในการทำงาน   

นอกจากนี้ กลุ่มสนับสนุน (Allyship) ที่เปรียบเสมือนพื้นที่ปลอดภัยสำหรับชาว LGBTQAI+ เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ก็สามารถช่วยส่งเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แถมยังเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนให้พนักงานทุกคนเข้าใจถึงสิทธิและความเท่าเทียม ก่อให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการทำงานที่ดีและอุ่นใจในออฟฟิศได้  

ปรับใช้นโยบายที่ส่งเสริมด้านความหลากหลาย 

การปรับใช้นโยบายที่มุ่งเน้นไปยังประเด็นของความเคารพ ให้เกียรติซึ่งกันและกัน รวมถึงการเสริมสร้างความเท่าเทียมในองค์กรก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน เช่น มาตรการป้องกันการเลือกปฏิบัติ หรือการมอบสวัสดิการและสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความเป็นกลางสำหรับทุกเพศ ก็เป็นนโยบายที่องค์กรสามารถปรับใช้เพื่อส่งเสริมความหลากหลายให้เกิดขึ้นได้ในที่ทำงานได้  

แม้กระทั่ง การมอบสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมให้กับพนักงาน เช่น สวัสดิการคุ้มครองด้านสุขภาพสำหรับคู่รักเพศเดียวกัน สวัสดิการสุขภาพสำหรับคนข้ามเพศ และวันลาสำหรับการรับอุปถัมภ์บุตรบุญธรรม ก็เปรียบเสมือนการมอบพลังสนับสนุน และแสดงออกถึงความมุ่งมั่นในหลักการคิดขององค์กรของคุณในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรสำหรับทุกคน

เพิ่มการมีส่วนร่วมให้กับทุกคนในออฟฟิศ

การสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพนักงานก็เป็นอีกแนวทางที่องค์กรสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มีส่วนร่วมได้ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ ตั้งแต่ระดับความคิดและความรู้สึก อย่างการปลูกฝังการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมและเคารพซึ่งกันและกัน เช่น การรับฟังและช่วยเหลือเพื่อนร่วมงาน การโอบรับในความต่างแตกของผู้คนโดยไม่เลือกปฏิบัติหรือเหมารวม 

หรือจะจัดเป็นกิจกรรมสนุกๆ ให้พนักงานได้ทำร่วมกัน เช่น กิจกรรมละลายพฤติกรรม งานกีฬาสี หรือแม้กระทั่งการจัดสัมมนาพักผ่อน เพื่อการมอบโอกาส และช่วงเวลาดีๆ ให้ทุกคนในบริษัทได้ทำความรู้จักกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดี และสนิทสนมกันมากขึ้น  

เมื่อเกิดมิตรภาพในที่ทำงาน การยอมรับและการสนับสนุนก็จะปรากฏขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งสามารถส่งผลให้การทำงานราบรื่นขึ้น แถมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้นได้อีกด้วย 

การโอบรับความหลากหลายและปรับใช้นโยบายความมีส่วนร่วมในบริษัทจะนำมาซึ่งประโยชน์มากมายต่อองค์กร เช่น การทลายกำแพงระหว่างเพื่อนร่วมงาน และมอบพื้นที่ให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพของตนเองอย่างเต็มที่ ซึ่งจะสามารถยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานให้เต็มไปด้วยความตั้งใจได้ รวมถึงสร้างความพึงพอใจในการทำงาน ยกระดับความโปรดักทีฟ ซึ่งก็จะเป็นเส้นทางที่นำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรอีกด้วย เป็นผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเสริมสร้างสังคมการทำงานที่เต็มไปด้วยการมีส่วนร่วม ความหลากหลาย และการเปิดรับนั่นเอง

มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในการเสริมสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการทำงาน ที่ทุกคนจะได้รับการยอมรับ ไร้ซึ่งกำแพงระหว่างความต่าง และทุกความสำเร็จล้วนมีความหมาย เพราะพวกเราทุกคนแตกต่างกันอย่างลงตัว 
สุขสันต์เดือนไพรด์แด่ชาว LGBTQAI+ ทุกท่าน ขอให้ความรักชนะทุกสิ่ง!