5 ประเภทงานดิจิทัลอาร์ตที่ควรทำความรู้จัก
ในยุคนี้ที่หลายสิ่งรอบตัวเราถูกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ไม่ว่าอะไรก็อยู่ในรูปแบบดิจิทัลได้ ศิลปะก็เช่นกัน
ดิจิทัลอาร์ต ถูกสร้างขึ้นจากซอฟต์แวร์ คอมพิวเตอร์ รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่ทำหน้าที่เหมือนผืนผ้าใบ แปรงและพู่กัน ในเวอร์ชั่นที่ทันสมัยกว่า ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อให้ศิลปินสามารถที่จะถ่ายทอดอารมณ์ผ่านงานศิลป์ได้ หลายคนอาจคุ้นเคยกับงานดิจิทัลอาร์ตที่ผ่านมาให้พบเห็นในชีวิตประจำวันอยู่บ้าง ทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ภาพ Illustration ภาพเขียน หรือภาพกราฟิกแบบ 3D
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในทุกวันนี้ได้ช่วยเพิ่มอิทธิพลให้ดิจิทัลอาร์ต เมื่องานศิลปะรูปแบบใหม่นี้เป็นที่เข้าถึงได้ง่าย ความนิยมจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง งานศิลปะ NFT ที่กำลังมาแรงแบบสุดๆ สกุลเงินคริปโตประเภท Non-Fungible Token หรือ NFT ได้เข้ามาพลิกวงการงานศิลป์ เปิดโอกาสให้ศิลปินได้แสดงผลงาน ปกป้องกรรมสิทธิ์ความเป็นเจ้าของของตัวเอง และสร้างกำไรภายในเวลาไม่กี่นาที
เดลล์ขอชวนคุณมาทำความรู้จักประเภทของงานดิจิทัลอาร์ตที่กำลังมาแรง เปิดโลกงานศิลป์ของคุณให้กว้างกว่าเดิม ดิจิทัลอาร์ตอาจจะกลายเป็นงานอดิเรกอันใหม่ของคุณก็ได้นะ!
Digital Collage
Digital Collage คืองานศิลปะที่มีการนำภาพกราฟิกหลายๆ ภาพมาจัดวางซ้อนกัน เพื่อสร้างองค์ประกอบที่สวยงาม เกิดเป็นผลงานชิ้นใหม่ที่ไม่มีใครเหมือน ถือเป็นงานศิลปะที่เปิดโอกาสให้ศิลปินได้สื่ออารมณ์ และสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผ่านทุกองค์ประกอบที่ถูกจัดเรียงอยู่บนชิ้นงาน
Adobe Photoshop ถือเป็นโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการใช้สร้าง Digital Collage โดยสามารถใช้งานได้บน PC แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่อื่นๆ ถ้าอยากจะสร้าง Digital Collage ดูสักชิ้น ลองดาวน์โหลดโปรแกรมมาลองดูสักตั้งก็ไม่เสียหายอะไร
Vector Art
ภาพเวกเตอร์ คืองานกราฟิกคุณภาพสูงที่สร้างขึ้นจากการลากเส้นเชื่อมต่อระหว่างจุด โดยมีการใช้การประมวลผลในทางคณิตศาสตร์เข้ามาช่วย เกิดเป็นชิ้นงานที่ดูเป็นมืออาชีพ มาพร้อมความคมและความชัดเจน ไม่ว่าจะนำไปพิมพ์ หรือจัดแสดงบนหน้าจอแบบไหนก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว เรามักจะเห็นภาพเวกเตอร์ได้บนโลโก้สินค้า ป้ายบิลบอร์ด เว็บไซต์ รวมไปถึงป้ายโฆษณาต่างๆ โปรแกรมอย่างเช่น Adobe Illustrator, CorelDRAW และ Quark ถือเป็นซอฟต์แวร์ยอดฮิตในการใช้สร้างภาพเวกเตอร์
ภาพกราฟิกแบบ 2D (2D computer graphics)
ภาพกราฟิกแบบ 2D คือภาพดิจิทัลที่ถูกสร้างขึ้นบนคอมพิวเตอร์ โดยมักจะมีต้นแบบมาจากต้นแบบ 2 มิติ งานศิลปะประเภทนี้ถือเป็นการยกระดับภาพวาดและภาพเขียน 2 มิติ ให้มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัล เพื่อตอบรับกับสื่อ และอุตสาหกรรมความบันเทิงในยุคปัจจุบัน
การผลิตงานอนิเมชั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งอนิเมะของญี่ปุ่น มักจะอยู่ในรูปแบบของภาพกราฟิก 2D ซึ่งแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของความสุนทรีย์ในภาพวาดแบบดั้งเดิมได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะไม่มีอุปกรณ์หรือเครื่องมือขั้นสูง ก็สามารถสร้างภาพกราฟิก 2D ได้ การผลิตงานศิลป์ประเภทนี้จึงไม่ได้มีต้นทุนที่สูงมากนัก
ภาพกราฟิกแบบ 3D (3D computer graphics)
ภาพกราฟิกแบบ 3D หรือที่เรียกกันย่อๆ ว่า CGI หรือ 3D CGI มีองค์ประกอบของภาพมากถึง 3 มิติ คือ ความกว้าง ความสูง และความลึก โดยเราสามารถที่จะมองและปรับหมุนได้จากทุกมุม ไม่ต่างไปจากวัตถุในโลกความเป็นจริง การจะผลิตภาพแบบนี้จึงต้องอาศัยเทคโนโลยีขั้นสูงเข้ามาช่วยในการปั้นแต่งภาพวาดให้มีชีวิต ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็น่าประทับใจมากทีเดียว
งานศิลปะประเภทนี้ มักถูกนำมาใช้ในการสร้างตัวละคร ฉาก รวมถึงเอฟเฟ็กต์พิเศษต่างๆ ในภาพยนตร์และเกม คุณสมบัติความสมจริงของภาพกราฟิก 3D นี้ ยังได้ถูกนำไปปรับใช้กับลักษณะความเป็น 3 มิติของ AR และ VR ถึงขนาดที่ถูกนำไปใช้ในการสร้าง Virtual Human ที่กำลังเป็นกระแสมาแรงทั่วโลกในขณะนี้เลยทีเดียว
ถ้าอยากรู้ว่า 3D CGI ถูกผสมผสานให้กลมกลืนกับโลกความเป็นจริงได้อย่างไร ตามมาอ่านบทความ Virtual Idol: ศิลปินเจนใหม่แห่งวงการเพลงป๊อป และ Virtual Influencer 101: คู่มือเตรียมพร้อมก้าวสู่ยุคมนุษย์ดิจิทัล กันได้เลย
Pixel Art
Pixel Art ได้ดึงเอาจุดเด่นของภาพบนคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกมส์ในยุคแรกๆ ที่จะมีความคมชัดต่ำ มาสร้างเป็นแนวงานศิลป์ที่มีจุดพิกเซลเป็นลักษณะสำคัญ วิดีโอหรือภาพแบบพิกเซลนี้ มักจะอยู่บนเกมและภาพยนตร์ ยกตัวอย่างเช่น Super Mario เกมดังที่มาพร้อมภาพแบบ Pixel Art ชวนให้นึกถึงบรรยากาศวันวานที่ไม่มีใครเหมือน
ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีในทุกวันนี้จะอำนวยความสะดวกในการสร้างผลงานที่มีความคมชัดสูง Pixel Art ก็ยังคงเป็นประเภทงานศิลปะที่ศิลปินและเหล่าครีเอเตอร์เลือกใช้ในการสร้างดิจิทัลอาร์ตที่มีกลิ่นอายความคลาสสิก แต่ก็ดูโดดเด่นและดึงดูดสายตาได้อยู่เสมอ
ไม่ว่าใครก็รังสรรค์งานศิลป์ได้
การมีอุปกรณ์มากชิ้น ไม่ได้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างงานศิลปะอีกต่อไป ดิจิทัลอาร์ตเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ปล่อยพลังความสร้างสรรค์ แม้คุณอาจไม่ได้คลุกคลีอยู่ในวงการศิลปะมาก่อนก็ตาม ใครๆ ก็สามารถเริ่มต้นสร้างงานศิลป์บนโลกดิจิทัลได้ ขอแค่มี PC หรือแท็บเล็ต ที่คุณสามารถวาดลายเส้นได้ดั่งใจ มาพร้อมโปรแกรมกราฟิกสำหรับจัดแต่งผลงาน ตามด้วยจอมอนิเตอร์ที่ให้สีตรงและคมชัด เพื่อให้คุณสามารถเลือกลงสีได้ตรงใจ อุปกรณ์ไร้สายอย่างเช่นเมาส์และคีย์บอร์ดก็ช่วยอำนวยความสะดวกได้ไม่น้อย ให้คุณโฟกัสและปล่อยพลังความสร้างสรรค์อย่างลื่นไหลไร้กังวล
เมื่อเทคโนโลยีล้ำสมัยได้มาเจอกับความสร้างสรรค์ ความเป็นไปได้นับร้อยพันในการรังสรรค์ชิ้นงานอันน่าตรึงใจจึงเกิดขึ้น ดิจิทัลอาร์ตคือปัจจุบันและอนาคตของวงการศิลปะ ที่จะไม่มีวันหยุดสร้างแรงบันดาลใจให้โลกใบนี้
พลิกโฉมจินตนาการที่มีชีวิตชีวาของคุณ ให้ใกล้สู่ความเป็นจริงขึ้นไปอีกขั้น ด้วย Dell XPS 8950 Desktop ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังสูงสุดถึง 12th Gen Intel® Core™ i7 processor ที่มาพร้อมประสิทธิภาพเหนือชั้น คุณจึงรังสรรค์ผลงานชิ้นเอกได้อย่างเต็มที่ พร้อมขยายขอบเขตให้ไกลกว่าเดิม ด้วยกราฟิกคุณภาพจาก NVIDIA™ มาร่วมนิยามสุนทรียศาสตร์แห่งงานศิลป์ในแบบของคุณเอง กับ XPS ที่นี่
เติมพื้นที่สร้างงานศิลป์ของคุณให้ครบพร้อม กับ Dell 27 FHD Monitor (S2721HN) จอมอนิเตอร์ที่มาพร้อมการแสดงผลที่เสถียรและความคมชัดขั้นสุด ปลดปล่อยความเป็นตัวคุณอย่างลื่นไหล ไปกับ Dell Wireless Keyboard & Mouse (KM5221W) ที่ให้คุณปรับค่า DPI ได้ตามต้องการ คุณจึงถ่ายทอดความสร้างสรรค์สู่ผืนผ้าใบดิจิทัลด้วยความแม่นยำได้มากกว่าที่เคย
ตามหาอุปกรณ์ที่ใช่ สำหรับสไตล์งานศิลป์ของคุณได้แล้ว ที่นี่